เควิน เดอ บรอยน์ ประกาศอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาลนี้
เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เขาจะอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City)หลังจบฤดูกาลนี้
สัญญาของเดอ บรอยน์กับสโมสรจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ และเจ้าตัวยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า จะย้ายออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว
ตลอด 10 ปีที่ค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เดอ บรอยน์คว้าแชมป์ร่วมกับทีมถึง 16 รายการ ได้แก่ พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, คาราบาว คัพ 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย และแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย รวมถึงเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง (ฤดูกาล 2019-20 และ 2021-22) sbo mobile
“แค่ได้เห็นโพสต์นี้ คุณก็น่าจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร” เดอ บรอยน์โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย
“ผมจะพูดตรง ๆ เลยว่า นี่จะเป็นช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของผมในฐานะนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้”
“ไม่มีอะไรในนี้ที่เขียนง่ายเลย แต่นักฟุตบอลทุกคนรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง และตอนนี้วันนั้นก็มาถึงแล้ว – คุณควรได้รับฟังจากผมโดยตรง”
“ฟุตบอลพาผมมาหาพวกคุณ – มาสู่เมืองนี้ ไล่ตามความฝัน โดยไม่รู้เลยว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตของผม เมืองนี้ สโมสรนี้ ผู้คนที่นี่… มอบทุกอย่างให้ผม และผมก็ทุ่มเทกลับไปอย่างสุดหัวใจ และคุณรู้ไหม – เราคว้ามาทุกอย่างแล้ว”
“ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ มันถึงเวลาต้องกล่าวคำอำลา ผม, สุริ, โรม, เมสัน และมิเชล ขอขอบคุณจากใจในทุกอย่างที่แมนเชสเตอร์มอบให้ครอบครัวของเรา ‘แมนเชสเตอร์’ จะอยู่ในหนังสือเดินทางของลูก ๆ เราตลอดไป – และสำคัญกว่านั้น อยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคน ที่นี่จะเป็นบ้านของเราตลอดไป”
เดอ บรอยน์ ย้ายจากโวล์ฟสบวร์กมาร่วมทีมในปี 2015 ตอนอายุ 24 ปี และกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กล่าวถึงลูกทีมคนสำคัญว่า
“เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดที่เคยเล่นในประเทศนี้ และกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่มีข้อกังขาเลย”
“อาจจะไม่ใช่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะยังมีผู้เล่นระดับตำนานอีกมากในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเขาคือหนึ่งในที่สุดแน่นอน ด้วยความสม่ำเสมอในเกมใหญ่ เกมเล็ก อยู่ในสนามตลอดทุก ๆ สามวัน – มันสุดยอดมาก”
เป๊ปยังกล่าวว่า เขารู้เรื่องการอำลานี้ล่วงหน้าแล้วไม่กี่วัน แต่ข่าวก็ยังสร้างความรู้สึกทั้งดีใจและเศร้าไปพร้อมกัน sbo mobile
“เป็นวันที่เศร้า… แต่ก็มีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขา เขามอบความอ่อนน้อมและอิทธิพลสำคัญในการประสบความสำเร็จของเราในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเราคงนึกภาพไม่ออกเลยถ้าไม่มีเขา”
เดอ บรอยน์ วัย 33 ปี เคยอยู่กับเชลซีในช่วงต้นอาชีพ ก่อนจะกลายเป็นหัวใจของยุคทองแมนฯ ซิตี้ ลงเล่นไปทั้งหมด 413 นัด ทำได้ 106 ประตู และแอสซิสต์อีก 174 ครั้ง
เขาทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้มากเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลที่ 118 ครั้ง ตามหลังไรอัน กิ๊กส์ (162 ครั้ง) และสร้างโอกาสทำประตูถึง 826 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นคนอื่นเกือบ 300 ครั้ง โดยคริสเตียน อีริกเซ่น อยู่ในอันดับ 2 ที่ 532 ครั้ง
ในฤดูกาลนี้ เดอ บรอยน์ลงสนามในพรีเมียร์ลีกไป 20 นัด หลังจากเจออาการบาดเจ็บในเดือนกันยายนและใช้เวลาพักฟื้น
เขาตกเป็นข่าวกับทีมใน เมเจอร์ลีก สหรัฐฯ (MLS) และ โปรลีก ซาอุดีอาระเบีย และยังมีโอกาสปิดฉากกับซิตี้ด้วยแชมป์อีกหนึ่งรายการ โดยทีมจะลงเล่นเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ในเดือนนี้