Wed. Mar 12th, 2025
เจมี่ วาร์ดี้

การเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก คือความฝันของทุกสโมสรใน ฟุตบอลลีก อังกฤษ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การได้เลื่อนชั้นกลับดูเหมือนเป็นคำสาปมากกว่ารางวัล ในฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสามทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่แคมเปญ 2023-24 – ลูตัน ทาวน์ (Luton Town), เบิร์นลีย์ (Burnley) และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (Sheffield United) – ต่างตกชั้นกลับไปสู่ แชมเปี้ยนชิพ ทันที ส่วนสามทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในแคมเปญนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City), เซาแธมป์ตัน (Southampton) และ อิปสวิช ทาวน์ (Ipswich Town) ปัจจุบันครองอันดับท้ายตารางอยู่ และเราอาจได้เห็นปรากฏการณ์ที่ทั้งสามทีมที่เลื่อนชั้นต้องตกชั้นในฤดูกาลติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

สามทีมบ๊วยกำลังจะทำสถิติแต้มรวมต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เมื่อ ลูตัน, เบิร์นลีย์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตกชั้นในฤดูกาลที่แล้ว พวกเขามีแต้มรวมกันเพียง 66 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติแต้มรวมต่ำสุดของทีมตกชั้นทั้งสามทีมในฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ที่มี 38 นัดแต่สามทีมบ๊วยฤดูกาลนี้กำลังจะ “ทำลาย” สถิตินั้น โดย โอปต้า (Opta) คาดการณ์ว่าเมื่อจบฤดูกาล เซาแธมป์ตัน, อิปสวิช และ เลสเตอร์ จะมีแต้มรวมกันเพียง 58 คะแนนเท่านั้น หลังผ่านไป 28 นัด เซาแธมป์ตัน, อิปสวิช และ เลสเตอร์ มีแต้มรวมกันเพียง 43 คะแนน นั่นคือแต้มรวมต่ำสุดในช่วงเวลานี้ของฤดูกาลสำหรับสามทีมบ๊วยในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ ยังต่ำกว่าแต้มรวม 49 คะแนนของ เบิร์นลีย์, ลูตัน และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่แล้วถึง 6 คะแนน และต่ำกว่าสถิติอันดับ 2, 3 และ 4 ที่เคยต่ำสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อย่างมีนัยสำคัญ การเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก นั้นยากแล้ว แต่การรักษาสถานะอยู่ในลีกสูงสุดของ อังกฤษ ยิ่งยากกว่าหลายเท่า ทางเข้า สโบเบ็ต888 โดยเฉพาะสำหรับทีมน้องใหม่ที่มีทรัพยากรจำกัด ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาต้องเผชิญกับความแตกต่างอย่างมหาศาลทั้งในด้านคุณภาพผู้เล่น, งบประมาณ และประสบการณ์ เมื่อเทียบกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City), อาร์เซนอล (Arsenal) หรือ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในขณะที่ทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เคยสร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปี 2016 ภายใต้การคุมทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี (Claudio Ranieri) แต่นั่นถือเป็นกรณีพิเศษที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์

ย้อนกลับไปดูสถิติของทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาตลอด 30 ปีของ พรีเมียร์ลีก พบว่ามีเพียง 63% ของทีมที่เลื่อนชั้นเท่านั้นที่สามารถรักษาสถานะอยู่ได้ในฤดูกาลแรก นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนรูปแบบเป็น 20 ทีมในปี 1995 เคยมีเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นที่ไม่มีทีมเลื่อนชั้นตกชั้นกลับลงไป นั่นคือฤดูกาล 2001-02 เมื่อ ฟูแล่ม (Fulham), แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (Blackburn Rovers) และ โบลตัน วันเดอเรอร์ส (Bolton Wanderers) ทั้งหมดรอดพ้นจากการตกชั้น ในทางตรงกันข้าม มีถึง 6 ฤดูกาลที่ทีมเลื่อนชั้นทั้งหมดตกชั้นลงไป ล่าสุดคือฤดูกาล 2017-18 เมื่อ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (Cardiff City), ฟูแล่ม และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (Huddersfield Town) ไม่สามารถรักษาสถานะอยู่ได้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมน้องใหม่มีโอกาสอยู่รอดลดลงคือช่องว่างทางการเงินที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ทีมจาก “บิ๊กซิกซ์” – แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United), ลิเวอร์พูล, เชลซี (Chelsea), อาร์เซนอล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (Tottenham Hotspur) – มีรายได้มหาศาลจากสิทธิ์การถ่ายทอดสด, สปอนเซอร์ และการแข่งขันระดับทวีปยุโรป ทีมน้องใหม่ต้องดิ้นรนเพื่อปรับปรุงทีมให้ทัดเทียม ซึ่งต้องใช้การลงทุนอย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องยากในตลาดนักเตะปัจจุบันที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต้องเรียนรู้บทเรียนที่น่าสนใจจากทีมน้องใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการรักษาสถานะใน พรีเมียร์ลีก

ทีมอย่าง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (Brighton & Hove Albion) ภายใต้การนำของ เกรแฮม พอตเตอร์ (Graham Potter) และต่อมาคือ โรแบร์โต เดอ แซร์บี้ (Roberto De Zerbi) ได้แสดงให้เห็นว่าการสร้างเอกลักษณ์การเล่นที่ชัดเจน, การค้นหาตลาดนักเตะที่มีราคาเหมาะสม และการพัฒนาเยาวชนสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวได้ เช่นเดียวกับ เบรนท์ฟอร์ด (Brentford) ที่ใช้โมเดลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหานักเตะที่ถูกมองข้ามแต่มีศักยภาพ จนสามารถสร้างทีมที่แข่งขันได้ใน พรีเมียร์ลีก ภายใต้การนำของ โธมัส แฟรงค์ (Thomas Frank) แม้ เลสเตอร์, เซาแธมป์ตัน และ อิปสวิช กำลังอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ สตีฟ คูเปอร์ (Steve Cooper) มีประสบการณ์มากกว่าสองทีมที่เหลือ และเคยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเอาชนะทีมใหญ่มาแล้ว ทางเข้า สโบเบ็ต888 ในขณะที่ เซาแธมป์ตัน ภายใต้ รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) พยายามรักษารูปแบบการเล่นที่สวยงามแม้จะเจอผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก และ อิปสวิช ภายใต้ เคียแรน แมคเคนนา (Kieran McKenna) ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการเล่นเกมรุกแม้จะเป็นทีมน้องใหม่ การเลื่อนชั้นจาก แชมเปี้ยนชิพ สู่ พรีเมียร์ลีก กำลังกลายเป็นความท้าทายที่ยากขึ้นทุกปี ด้วยช่องว่างทางคุณภาพและการเงินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สามทีมบ๊วยในฤดูกาลนี้กำลังเผชิญกับความเป็นจริงอันโหดร้ายนี้ และกำลังจะสร้างสถิติที่ไม่พึงประสงค์หากพวกเขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ทัน อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า ปาฏิหาริย์ยังเกิดขึ้นได้ใน พรีเมียร์ลีก และแม้สถานการณ์จะดูมืดมน แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะหมดฤดูกาล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *