แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รอดชีวิตด้วยฝีมือของ ซาวินโญ่ ในศึกแชมเปียนส์ลีก พลิกสถานการณ์จากตามหลังหนึ่งประตูชนะ 3-1 พร้อมเข้าสู่รอบต่อไป
หลังจากตามหลังหนึ่งประตูในครึ่งแรก ซิตี้พลิกเกมกลับมาคว้าชัยชนะและผ่านเข้าสู่รอบ 24 ทีมสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) พลิกสถานการณ์จากเกมครึ่งแรกที่เต็มไปด้วยความกดดัน เมื่อซาวินโญ่ (Savinho) ตัวสำรองของทีม ลงมาสร้างความแตกต่างและช่วยทีมแชมป์เก่าจากอังกฤษให้รอดพ้นจากการตกรอบแชมเปียนส์ลีกในเกมกับคลับ บรูช (Club Brugge)
แชมป์ปี 2023 ที่จำเป็นต้องชนะเพื่อการันตีการเข้าสู่รอบ 24 ทีมสุดท้ายและรอบน็อกเอาต์ ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตกรอบในครึ่งแรก หลังจากราฟาเอล โอนเยดิก้า ยิงประตูสุดสวยจากจังหวะสวนกลับให้คลับ บรูชขึ้นนำอย่างสมศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม ประตูจากมาเตโอ โควาชิช และซาวินโญ่ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่น บวกกับการทำเข้าประตูตัวเองของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ซิตี้คว้าชัยชนะได้สำเร็จ ขณะที่ผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ ช่วยการันตีว่าผู้มาเยือนยังคงอยู่ในเส้นทางของรายการนี้ pic5678
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะอยู่ในรายการนี้ต่อไปยังคงเป็นคำถาม เนื่องจากเรอัล มาดริดและบาเยิร์น มิวนิก อาจเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาในเดือนกุมภาพันธ์ หากซิตี้ยังคงเล่นเหมือนครึ่งแรกของเกมนี้ อาจทำให้ช่วงเวลาที่เหลือยากลำบาก
เกมครึ่งแรกที่น่าหวาดเสียว
ตั้งแต่สัมผัสบอลสองครั้งแรกของเกม เห็นได้ชัดว่าคลับ บรูชมีแผนอะไร แบรนดอน เมเคเลโยนบอลสูงและลึกเข้าไปในโซนของมาเธอุส นูเนส และพวกเขายังคงโจมตีฝั่งขวาของซิตี้ต่อไปอย่างไม่ลดละ จนในที่สุดนาทีที่ 3 คริสตอส ทโซลิสหลุดเข้าไปในพื้นที่ว่างและเปิดบอลต่ำให้เชมสดีน ทัลบียิง แต่ถูกโยสโก กวาร์ดิโอลสกัดไว้ได้ pic5678
หลังจากเริ่มเกมอย่างเชื่องช้า ซิตี้สามารถครองบอลได้และตั้งเกมอยู่บริเวณกรอบเขตโทษของคู่ต่อสู้ การกลับมาของเควิน เดอ บรอยน์ในผู้เล่น 11 คนแรกทำให้เป๊ป กวาร์ดิโอลาลองใช้ระบบ 4-4-2 ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ในปี 2023 โดยมีช่วงเวลาที่แสดงถึงความเก่งกาจของทีมในอดีต เช่นจังหวะที่อิลคาย กุนโดกันลอบเข้ามาในกรอบเขตโทษและยิงลูกต่ำเข้าไป แต่ธงล้ำหน้าทำให้ประตูนั้นไม่ถูกนับ
คลับ บรูชยังคงมีจังหวะสวนกลับที่น่ากลัว และในที่สุดพวกเขาก็ได้ประตูจากจังหวะที่เฟร์ราน จุตกลาโชว์ลีลาบริเวณริมเส้นซ้าย ผ่านนูเนสและเปิดบอลที่แฉลบมานูเอล อคานจี ก่อนที่โอนเยดิก้าจะยิงเข้าไป pic5678
ครึ่งหลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
ซาวินโญ่ถูกส่งลงสนามแทนกุนโดกันเพื่อเพิ่มความเร็วและความคล่องตัวให้กับเกม และเขาก็สร้างความแตกต่างได้ทันที หลังจากช่วยสร้างโอกาสให้ซิตี้บุกกดดันในพื้นที่หน้าประตูคู่ต่อสู้
ประตูตีเสมอของซิตี้มาจากมาเตโอ โควาชิช ที่อาศัยช่องว่างที่เปิดออกจากการวิ่งล่อหลอกของเดอ บรอยน์ ก่อนที่จะเลี้ยงบอลจากครึ่งสนามและยิงผ่านไซมอน มิโญเลต์
ประตูที่สองเกิดขึ้นจากจังหวะที่ซาวินโญ่ส่งบอลให้โยสโก กวาร์ดิโอลในจังหวะโอเวอร์แล็ป ก่อนที่การเปิดบอลของเขาจะถูกโจเอล ออร์โดเนซทำเข้าประตูตัวเอง
สำหรับประตูปิดท้าย ซาวินโญ่ตัดสินใจจัดการเอง ด้วยการรับบอลที่จอห์น สโตนส์โยนข้ามแนวรับมา ก่อนโชว์ทักษะสัมผัสบอลแรกอย่างเหนือชั้นและยิงผ่านมิโญเลต์เข้าไปอย่างสวยงาม